my cup cake

my cup cake

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Anya's Place Restaurant

วันนี้จะพามาชิมอาหารที่ร้าน Anya's Place กันนะคะ ร้านนี้เราค้นพบด้วยความบังเอิญจากการ search หาข้อมูลของโยกี้แบบปัจจุบันทันด่วน โดยมีโจทย์ว่าขอร้านที่อยู่แถวๆ ศาลายา(เนื่องจากวันนี้ครอบครัวเราไปธุระแถวๆ นั้น เลยถือโอกาสเลี้ยงฉลองวันเกิดย้อนหลังกัน) ร้านนั่งสบายๆ อาหารหลากหลาย และมีเบเกอรี่อร่อยๆ 

ร้านตั้งอยู่เลียบคลองทวีวัฒนาตามแผนที่ด้านล่างนี้เลย หาไม่ยากค่ะ เราก็ใช้ google map นำทางมาแบบสบายๆ ไม่มีหลงแน่นอน 
"แผนที่ร้าน Anya's Place ข้อมูลจาก www.anyaplace.com"

วันนี้ไม่ได้เอากล้องเทพมา เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจจะไปรีวิวร้านอาหารที่ไหน แต่พอมาเจอร้านนี้อดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ยังไงก็ต้องรีวิวให้ได้ เลยใช้กล้องไอโฟน 5  หากภาพชัดบ้างไม่ชัดบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ

สำหรับที่จอดรถก็มีพอสมควร บรรยากาศของร้านก็ดีมาก ร่มรื่นดี ขนาดเวลากลางวันบรรยากาศยังรู้สึกโอเคเลย  ถ้าเป็นเวลากลางคืนก็น่าจะสวยมาก โยกี้ยังบ่นเสียดายว่าอยู่ไกลบ้านเราไปหน่อย ไม่งั้นคงได้มานั่งเล่นชิมบรรยากาศยามค่ำคืนดูบ้าง
"ใกล้ๆ ทางเข้าร้านเป็นส่วนที่ทำพิซซ่า มีกระจกโชว์การทำพิซซ่าให้ลูกค้าได้เห็นด้วย เสียดายที่ฝนตก เลยไม่ได้ลงจากรถไปถ่ายรูปเลย"
"บรรยากาศด้านนอกของร้าน"

"กล้วยไม้ออกดอกดกมากๆ ดูแล้วสดชื่นดีจัง"

"ส่วนหนึ่งของร้านเป็นร้านที่ขายไวน์ต่างๆ คนชอบไวน์ไม่น่าพลาด"
"บรรยากาศภายในร้าน ด้ายซ้ายมือเป็นมุมเบเกอรี่ ด้านขวามือเป็นไอศครีมหลากรสชาติ"

"กระจกใสทำให้มองเห็นวิวด้านนอก ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านเลย"
เอาล่ะ กินบรรยากาศมาเยอะแล้ว มาลองชิมอาหารกันซะทีดีกว่า มื้อกลางวันของเราวันนี้ก็ปาไปเกือบจะบ่ายสามโมงแล้ว ตอนนี้ป๊ะป๋าหิวจนจะเป็นลมแล้ว

สำหรับเมนูอาหารมีทั้งอาหารไทย อาหารสไตล์ยุโรป  เบเกอรี่ และ เครื่องดื่มต่างๆ ทั้งที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวได้ชิมอาหารและเครื่องดื่มแบบครบครัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่นิยมอาหารสไตล์ต่างกัน อย่างเช่นครอบครัวเราที่แม่ พี่สาว และโยกี้นิยมอาหารแบบไทยๆ ส่วนเรากับป๋านิยมแนวตะวันตก win -  win กันทั้งครอบครัว

พอมานั่งที่โต๊ะปุ๊บพนักงานน่ารักๆ ก็จะมาเสริ์ฟน้ำเย็นกันเลย ยกมาเป็นขวดๆ ขวดแก้วขนาดใหญ่สามารถเติมกันเองได้ตามอัธยาศรัย แบบไม่คิดเงินด้วย (ดีจัง)
"อุปกรณ์พร้อม...อาหารจงมา อาหารจงมา"

อาหารอย่างแรกที่ถูกเสิร์ฟมาคือ "ต้มยำเห็ดโคนญี่ปุ่น" เหมาะสำหรับคนที่เป็นมังสวิรัต เพราะไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์เลย เครื่องต้มยำถึงเครื่องมาก มากันทั้งสวนครัว แต่พระเอกของชามนี้คือ เห็ดโคนญี่ปุ่นที่กรุบมากๆ เคี้ยวเพลินดี รสชาติก็จัดจ้านถูกใจทั้งครอบครัว โดยเฉพาะคุณโยกี้ที่ปลื้มมาก  เว้นแต่พี่สาวที่บอกว่าเปรี๊ยวไปนิดนึง  


"ต้มยำเห็ดโคนญี่ปุ่น รสชาติจัดจ้าน ถูกใจคนชอบรสเปรี๊ยวนำ"

ไม่นานอาหารจานที่สองก็ตามมาติดๆ เป็นของป๊ะป๋า เหมือนพนักงานจะรู้ว่าใครหิวจริง คงดูจากสีหน้า จานของป๊ะป๋าเลยถูกเสิร์ฟมาก่อน ที่ป๊ะป๋าสั่งคือ "มักกะโรนีแฮมอบชีส" ส่วนประกอบหลักๆ ได้แก่ มักกะโรนี แฮม และชีส (แหง๋ซิ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วนี่นาว่ามีอะไรบ้าง 555) จานนี้กลิ่นของชีสที่ถูกอบจนเกรียมหอมมากๆ เห็นแล้วก็คิดว่าเมื่อไหร่จานของเราจะมาซักที


"มักกะโรนีแฮมอบชีส...ไม่ได้ชิมแต่ดูจากที่ป๊ะป๋าจัดการซะเรียบก็คงใช้ได้อยู่"

จานที่ 3 เป็นของโยกี้ มันคือ "ข้าวผัดหมูสับหนำเลี๊ยบ" โยกี้นำส่วนประกอบทุกอย่างได้แก่ หมูสับ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขิง พริกขี้หนู และมะนาว คลุกรวมกันกับข้าวผัดหนำเลี๊ยบก่อนบรรจงตักเข้าปาก หลังจากนั้นก็ได้ยินโยกี้ชมไม่ขาดปากว่าอร่อยๆ แบบไม่ได้ยินคำติจากโยกี้เลย แสดงว่ามันคงจะอร่อยจริงๆ นะ ว่าแต่ทำไมเราไม่ได้ชิมด้วยล่ะนี่
"ข้าวผัดหนำเลี๊ยบของโยกี้ที่กินไม่แบ่งใครเลย"
จานที่ 4 เป็น "ข้าวผัดมันกุ้ง" ของแม่ ข้าวเป็นข้าวผัดกับมันกุ้งและไข่ เคียงด้วยกุ้งแม่น้ำที่น่าจะถูกทอดมา  จานนี้แม่บอกว่าข้าวผัดรสชาติดี แต่กุ้งเนื้อแห้งไปหน่อย ถ้าเนื้อกุ้งฉุ่มฉ่ำกว่านี้จานนี้คงจะอร่อยแบบสมบูรณ์แบบเลย
"ข้าวผัดมันกุ้ง...รสชาติข้าวผัดผ่านฉลุย"
จานที่ 5 เป็นของพี่สาว จานนี้คือ "ข้าวปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย" จานนี้เจ๊บอกว่าอร่อยแบบปกติทั่วไป แต่ปลาหมึกสดมากไม่รู้สึกเหม็นคาวเลย (เจ๊เค้าค่อนข้างมีประสาทในการรับกลิ่นดีเยี่ยม) จานนี้ให้ผ่าน


"ข้าวปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย...จานนี้ผ่านฉลุยอีกเช่นกัน"
จานที่  6 มาแล้ว มันคือ "Pizza Lardo e Funghi (พิซซ่าลาโด้เอฟุงกี้)" เป็นพิซซ่าที่ประกอบด้วย เห็ดสามอย่าง เบค่อน ชีส และซอสมะเขือเทศ แป้งพิซซ่าเป็นแบบแป้งบางทั้งกรอบและนุ่มในเวลาเดียวกัน อร่อยสุดๆ 


"Pizza Lardo e Funghi...กรอบ นุ่ม ยืด ในเวลาเดียวกัน อร่อยแบบไม่ต้องเติมซอสใดๆ เลย"
"ของคนอื่นๆ มากันหมดแล้ว เหลือแต่ของเรา...เราเลยต้องจัดไป"
จานที่  7 ของเรามาแล้ว จานนี้คือ "Fettuccini Smoked Salmon Cream Sauce (เส้นเฟตตูซีนีซอสครีมใส่ปลาแซลม่อนรมควัน)" เส้นเฟตตูซีนีได้ที่กำลังดีไม่เละและแข็งจนเกินไป ซอสครีมออกมันๆ หวานประแหล่มๆ ตัดกับความเค็มและหอมของแซลม่อนรมควัน แบบว่าลงตัวสุดๆ สำหรับเราเราว่าอร่อยดีนะจานนี้ 
"Fettuccini Smoked Salmon Cream Sauce...ชอบๆ"
จบของคาวแล้วมาต่อที่ของหวานกันต่อเลยดีกว่า อย่าให้ขาดตอน จัดมาจานแรก คือ  "Macaron" ลองสั่งมาชิม 4 รส ได้แก่ คาปูชิโน่ เชสนัท ช็อกโกแลตนูเทลล่า และมิกซ์เบอร์รี่ สำหรับ Macaron ซึ่งเป็นขนมที่เคยกินแล้วหลายๆ ร้านก็รู้สึกว่าทำใจให้ชอบขนมชนิดนี้ยาก แม้จะชิมของที่นี่แล้วก็ยังรู้สึกชอบมันยากอยู่ดี เค้าขอโทษ...
"Macaron...เราคงไม่ได้เกิดมาคู่กัน"

จานถัดมา คือ "Black Forest Cake" จานนี้โยกี้จัดมา ที่เลือกจานนี้เพราะโยกี้ชอบกลิ่นของเชอร์รี่ ด้านบนของเค้กเป็นเชอร์รี่เชื่อม ส่วนตรงกลางเค้กเป็นเชอร์รี่สด  ชิมแล้วอร่อยดีๆ ชอบๆ 
"Black Forest Cake..เนื้อเค้กนุ่ม ครีมสดหวานไม่จัด หอมกลิ่นเชอร์รี่ อร่อยได้ใจ"
จานสุดท้ายสำหรับมื้อนี้ คือ "Chocolate Lava Cake and Ice Cream" จานนี้ใช้เวลานานหน่อยประมาณ 15 นาที มาถึงก็รู้สึกอิ่มพอดี แต่ก็สู้ตาย เห็นหน้าตาแล้วก็อดใจไม่ได้ เนื้อเค้กถูกอบมาแบบร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน ช็อกโกแลตก็หวานๆ ขมนิดๆ(นิดเดียว) ตัดกับไอศครีมรสวนิลาเย็นๆ อร่อยดี สุดท้ายก็ไม่มีเหลือ
"ปิดท้ายความอร่อยด้วย Chocolate Lava Cake and Ice Cream" 

มื้อนี้อาหารคาว 7 จาน อาหารหวาน 3 จาน สำหรับ 5 คน รวมแล้วราคา 1,435 บาท คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่าไม่แพงเลยสำหรับอาหารอร่อยๆ และบรรยากาศดีๆ ในแบบครอบครัวอย่างนี้  การที่ได้มากินข้าวข้างนอกพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวแบบนี้แหล่ะความสุขเล็กๆ ของครอบครัวเรา ^_^ 

แล้วพวกเราจะมาอีกนะ "Anya's Place" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น